ฉันตั้งใจมานานแล้วว่าอยากตัดกราม เพราะไม่มั่นใจเลยกับใบหน้าตัวเอง รีเสิร์ชหาข้อมูลเกือบปี กว่าจะตัดสินใจว่าที่ไหนดี ปรึกษาคลินิกต่างๆ ไม่ต่ำกว่า 20 แห่งจากการรีเสิร์ช และคัดจนเหลือ 3-4 แห่ง ซึ่งเป็นคลินิกด้าน maxillofacial โดยเฉพาะ ซึ่งมีไม่กี่แห่งเท่านั้น และ EU เป็นหนึ่งในนั้น ที่สำคัญคือ เน้นการทำเพื่อความงามอีกด้วย ทั้งคุณหมอ Shin และ คุณหมอ Kim สามารถทำได้ทั้งแบบที่เปลี่ยนแปลงไปอีกคนเลย หรือ ทำแนวธรรมชาติก็ได้
เริ่มจากการปรึกษาออนไลน์ก่อน ตอบเร็วและดีมาก ไม่กดดันให้เรามัดจำหรือใดๆ ให้คำแนะนำละเอียดและดี อีกทั้งคุณหมอยังผ่าตัดแค่วันละ 1-2 เคสเท่านั้น ทำให้มั่นใจไปอีกว่า แต่ละเคสที่ออกมาจะได้รับความละเอียดและการดูแลใส่ใจ เลยตัดสินใจจองวันผ่า และเดินทางมาเกาหลีเพื่อพบกับคุณหมอ Shin อีกครั้งค่ะ ครั้งนี้ตัดสินใจผ่ากับคุณหมอ Shin ที่ขึ้นชื่อเรื่องการผ่าตัดแล้วเปลี่ยนเยอะ เปลี่ยนแบบ Dramatic ที่สุด
ฉันเตรียมคำถามมากมายอยากจะมาถามคุณหมอ และเตรียมรูปหน้าดาราที่ฉันชอบมาให้หมอดูด้วย ว่าอยากได้ใบหน้าทรงแบบนี้ๆ
ตอนแรกฉันกังวลมากเรื่องข้อจำกัดทางภาษาในการสื่อสารแต่โชคดีมากที่มีล่ามภาษาคอยสื่อสารให้ การสื่อสารจะเป็นไปอย่างราบรื่นและเข้าใจตรงกัน ฉันเห็นคุณหมอจดบันทึกทุกสิ่งที่ฉันต้องการลงไปใน Chart ประวัติคนไข้ ทำให้ฉันมั่นใจว่าคุณหมอจะเข้าใจในสิ่งที่ฉันต้องการทั้งหมด เพื่อพร้อมสำหรับผ่าตัดในวันถัดไป
ลำดับขั้นตอนการเตรียมตัวก่อนทำ
ทำการ CT- Scan ใบหน้า , ตรวจเลือด, ตรวจปอด , อัตราการเต้นของหัวใจ และตรวจปัสสาวะเรียบร้อยตั้งแต่ก่อนวันผ่าตัด ฉันเริ่มอดอาหารตั้งแต่คืนนี้จนถึงเช้าวันพรุ่งนี้ฉันค่อนข้างตื่นเต้นมาก กลัวคุณหมอจะลืมสิ่งที่ฉันพูด แต่ละอาทิตย์ปรึกษาบอกว่าไม่เป็นไร 🙂 เราจะเจอคุณหมอก่อนอีกหนึ่งรอบ ก่อนเข้าห้องผ่าตัดจริงทำให้ฉันคลายกังวลไปเยอะเลย เพราะได้สื่อสารกับคุณหมอและย้ำอีกรอบกับสิ่งที่ฉันต้องการ
คุณหมอออกแบบดีไซน์ใบหน้า เพื่อเป็น guideline ก่อนการผ่าตัด ที่ปรึกษาชาวเกาหลีพาฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าและถ่ายรูป ประมาณ 10 นาทีต่อจากนั้นฉันก็เข้าห้องผ่าตัด ฉันอยากเห็นใบหน้าใหม่ของตัวเองแล้ว
วันที่ 1 หลังผ่าตัดเสร็จทันที
ง่วงนอนมากหลับยาวจนถึงเช้า หลังผ่าตัดหิวน้ำมากแต่กินไม่ได้ต้องรอประมาณ 4 ชั่วโมงจึงจะเริ่มจิบน้ำได้ วันนี้ติดตามอาการหลังผ่าเช็คภายหลังการผ่าตัด การติดตามอาการดูมันเป็นการผ่าตัดเล็กมาก จริงๆแล้วการผ่าตัดโครงหน้า ไม่น่ากลัวอย่างที่เคยอ่านมาเลย ความชาบริเวณคางมีแค่นิดเดียว เลือดไหลน้อยมาก ไม่มีความเจ็บปวดใดๆเลย ตอนฉันทำเลสิกตายังเจ็บกว่านี้อีก
การดูแลของพยาบาลดีมากเข้ามาเปลี่ยน Ice-Pack ให้ทุกๆ 2 ชั่วโมง ฉันรู้ว่าพยาบาลต้องเฝ้าฉันตลอด 24 ชั่วโมง และเค้าไม่ได้นอนเลยในตอนกลางคืน ฉันจึงไม่อยากรบกวนเค้ามากนัก ถ้าฉันรู้สึกว่ามันไม่เย็นแล้วฉันก็จะลุกไปเปลี่ยนเอง …แค่เปลี่ยน Ice-pack มันง่ายมากๆเพราะตู้เย็นก็อยู่ข้างๆ เตียงนี่เอง คุณพยาบาลเข้ามาวัดไข้/ความดัน ทุกๆ 4 ชั่วโมง ฉันได้รับนำเกลือที่ผสมวิตามินและยาแก้ปวดตลอดทั้งคืนจนถึงเช้า
วันที่ 2 -3 หลังการผ่าตัด
วันนี้ฉันเตรียมตัวจะออกจากโรงพยาบาลตั้งแต่เวลา 10 โมง คุณหมอมาเช็คแผลให้ฉันและทำความสะอาดแผลให้แต่เช้า คุณล่ามเข้ามาอธิบายยาและการดูแลตัวเองต่างๆเมื่อพักฟื้นอยู่ที่โรงแรม วันนี้ฉันรู้สึกไม่เพลียเลยเพราะเมื่อคืนนอนเต็มอิ่มมากๆ ไม่อยากจะเชื่อเลยว่านี่คือการผ่าตัดโครงหน้าเพราะมันชิลกว่าที่คิดไว้เยอะเลย ทางโรงพยาบาลให้ welllife drink มาด้วย สำหรับทานช่วงพักฟื้น ทานง่ายมาก ซื้อเพิ่มไปไว้ที่โรงแรงอีก1แพ็ค
วันที่ 4 หลังการผ่าตัด
ฉันจะต้องเข้ามาที่โรงพยาบาลเพื่อเลเซอร์ลดบวมในทุกๆวันยกเว้นวันอาทิตย์ ฉันคิดว่า เครื่องเลเซอร์นี่ช่วยทำให้ความบวมของฉันลดลงอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาประมาณ 20 ถึง 30 นาทีจากนั้นฉันก็จะไปเดินเที่ยวฝั่งตรงข้ามโรงพยาบาล (Garosugil)
วันที่ 8 หลังการผ่าตัด
วันนี้ฉันตัดไหมบริเวณโหนกออกหมดแล้ว ตอนแรกกังวลมากเพราะได้ยินมาว่าการตัดไหมอาจจะเจ็บ แต่โชคดีมากที่คุณหมอเป็นคนตัดไหมให้ฉันเอง คุณหมอมือเบามากทำให้ฉันคลายกังวลไปเยอะเลยอีก 1
สัปดาห์ จะต้องมาตัดไหมในปากออกซึ่งคุณหมอจะเป็นคนตัดให้ฉันเองเช่นกัน
วันนี้คุณหมอสอนให้ฉันฝึกอ้าปากแล้วและคุณหมอยังให้วิดีโอการฝึกอ้าปากหลังการผ่าตัดให้ฉันด้วยเป็นการฝึกที่ง่ายมากๆ ( ข้อแนะนำการดูแลตัวเองและวิธีการฝึกอ้าปากหลังการผ่าตัดศัลยกรรม มี VDO ประกอบ )
วันที่ 12 หลังการผ่าตัด
วันนี้เป็นวันแรกที่ฉันสามารถสระผมด้วยตัวเองได้แล้วสดชื่นสุดๆ
วันที่ 13 หลังการผ่าตัด
วันนี้ฉันสามารถพูดเกือบได้ปกติแล้วแม้ว่าจะยังมีไหมอยู่ในปาก
วันที่ 14 หลังการผ่าตัด
ในที่สุดวันนี้ก็เป็นวันที่ไหมในปากทั้งหมดถูกตัดออกไปหมดแล้ว วันนี้ฉันสามารถใส่นิ้วเข้าไปได้ 2 นิ้วจะต้องฝึกต่อเนื่องเมื่ออยู่ที่บ้าน ขอบคุณทีมพยาบาลและล่ามมากๆที่ทำให้ฉันรู้สึกอุ่นใจเหมือนอยู่บ้าน
จะต้องรอไปอีกอย่างน้อยสามถึง 12 เดือนเพื่อให้ใบหน้าเข้าที่ 100%
วันที่ 18 หลังการผ่าตัด
1 เดือน กับ การทานอาหาร
ตอนนี้ฉันสามารถเคี้ยวทุกอย่างได้แล้วแต่ว่าอาหารเหนียว/แข็ง ยังจำเป็นต้องหันเป็นชิ้นเล็กๆอยู่ เช่น สเต็กเนื้อ และที่สำคัญรอยแผลบริเวณที่ตัดไหมโหนกก็บอกไม่เห็นแล้ว
2 เดือน ใบหน้าที่พึงพอใจ
ฉันรู้สึกชอบใบหน้าใหม่ของฉันมากไม่เสียใจเลยที่ตัดสินใจผ่าตัดที่ EU
5 เดือนหลังผ่าตัดกับความเป็น ความเป็นธรรมชาติ
ตอนนี้ฉันสามารถอ้าปากได้ปกติแล้ว ใบหน้าธรรมชาติมากๆเหมือนคนที่ไม่เคยศัลยกรรมกลับมาก่อนเลย
รายการศัลยกรรมทั้งหมด
- ผ่าตัดขากรรไหร
- ลดโหนกแก้ม ยุบโหนก
- ตัดกราม วีไลน์